Review Visa Germany วีซ่าเยอรมัน
สวัสดีค่า จากที่วางแผนการเดินทาง trip นี้มาสองปี ถึงเวลาต้องไปขอวีซ่า เยอรมัน โอ๊ะ โอ อ่านรีวิว แต่ละรีวิว แล้ว น่ากลัวมากกกกกกกก แต่ว่ากลับลำไม่ทันและ ยังไงก็ต้อง สอยมาให้ได้ (เรื่องของเรื่องคือจองโรงแรมไปแล้ว ดันจองผิด ไปจองแบบ Non-refundable ที่เยอรมันไป 5 คืน ค่าห้องแพงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก)
หลังจากที่ศึกษา จากเวปไซต์ และกระทู้ต่างๆ ซึ่งก็ ยังคง “งง” อยู่ ก็เลยคิดว่า ไปศึกษาข้อมูลจากแหล่งเลยดีกว่า ก็ปรากฎว่า เข้าไปที่ เวป นี้ ค่า ชัดเจน ตรงประเด็น เข้าใจง่าย และ เชื่อถือได้ ตาม link ด้านล่าง ค่ะ
คำแนะนำในการยื่นขอวีซ่า
http://www.bangkok.diplo.de/Vertretung/bangkok/th/08/0-Visa.html
คำแนะนำในการยื่นขอวีซ่า เชงเก้น
http://www.bangkok.diplo.de/Vertretung/bangkok/th/08/Touristenvisum.html
ข้อมูลค่อนข้างละเอียดมาก ซึ่งก็พอสรุปขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
1 ขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสาร
1. ถ่ายเอกสารหนังสือเดินทาง ต้องถ่ายเอกสารดังต่อไปนี้
1 หน้าหนังสือเดินทาง
2 กรณีเคยเดินทางไปต่างประเทศ ถ่ายเอกสารทุกหน้า ที่มีตราประทับ
อย่าลืม ตรวจสอบ
- หนังสือเดินทางฉบับจริงที่ยังมีอายุการใช้
- โปรดตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางของท่าน
-มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
-เป็นเล่มที่ออกมานานไม่เกิน 10 ปี
- ยังมีอายุใช้ได้อย่างน้อยอีก 3 เดือนนับจากวันเดินทางออกนอกประเทศสมาชิกเชงเกน
2. รูปถ่าย
รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก 2 ใบ
ใบที่ 1 ติดกับ ใบสมัครการขอวีซ่า
ใบที่ 2 เขียน ชื่อ นามสกุล ภาษาอังกฤษ และ หมายเลข pass port ด้านหลังภาพ (ไว้ให้เจ้าหน้าที่ตอนสัมภาษณ์)
เวลาไปถ่ายรูป แนะนำให้ปริ้นท์ตัวอย่างจากเวปไซท์ของสถานทูตไปให้ร้านดูด้วย เพราะว่าบางร้านก็ไม่รู้ว่า ถ่ายแบบไบโอเมตริก คืออัลไล
อันนี้ ต้องเป๊ะเว่อ นะคะ หรือถ้าจะให้ชัวร์ ก็ไปถ่ายที่สถานทูตได้เลย มีบริการ ค่าบริการ 4 รูป 180 บาท ค่ะ
3. หลักฐานยืนยันการจองที่พัก/เที่ยวบินและอื่นๆ จากบริษัทนำเที่ยวและโรงแรม ตลอดระยะเวลาที่ขอพำนัก
รายการนี้ประกอบด้วย
ใบจองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ อันนี้เราใช้ ของ TG191 โดยให้พี่เขาออกใบจองให้ก่อน และมาชำระเงินภายหลังหลังจากวีซ่าออกแล้ว เปรียบเทียบหลายเจ้าแล้ว ทั้ง kmt เจ้าเก่า ก็ถูกดี และอีกเจ้าของคนไทย Thaitravelcenter เหมือนกัน แต่เอาที่สบายใจถูกทั้งสองที่ส่วนของต่างชาติค่อนข้างติดต่อยาก และราคาแพงกว่า และเราเน้นบริการหลังขายคุยกันรู้เรื่องก็โอเคและเชื่อถือได้
ใบจองที่พักทุกวัน ตามระยะเวลาการขอวีซ่า อันนี้ใช้ใบจองจากเวปซ์ที่รับจองได้ค่ะ
4 หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ
- ระหว่างการเดินทางตลอดระยะเวลาที่ขอพำนัก วงเงินความคุ้มครองไม่ตํ่ากว่า 30,000.- เหรียญยูโร และต้องรวมบริการนำตัวกลับประเทศในกรณีเจ็บป่วยด้วย
รายชื่อบริษัทรับประกันภัยที่สถานทูตให้การรับรองเช็คได้จากเวปไซต์สถานทูต ค่ะ อันนี้ก็ซื้อที่ tg191 ค่ะ
5. ลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 ข้อ 6 และมาตรา 55
รายการนี้ ปริ้นท์ ออกมาเซ็นชื่อได้เลยค่ะ
6. หนังสือรับรองการทำงานปัจจุบันและหนังสืออนุญาตให้ลาพักร้อน
สำหรับพนักงาน/ลูกจ้าง: หนังสือรับรองการทำงานปัจจุบันและหนังสืออนุญาตให้ลาพักร้อน (ที่ระบุตำแหน่ง จำนวนปีการทำงานและเงินเดือน)
8. หลักฐานการเงินสำหรับการเดินทางและการพำนัก
ได้แก่ หนังสือรับรองจากธนาคาร และสมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงการเคลื่อนไหวทางด้านการเงินย้อนหลัง 3 เดือนสุดท้าย หรือ จะขอ Bank Guarantee จากธนาคารแนบไปด้วยก็ได้ค่ะ
9. หลักฐานอื่นๆ ที่แสดงถึงความพร้อมที่จะเดินทางกลับประเทศและแสดงถึงภาระผูกพันหรือ ความสัมพันธ์ของท่านในประเทศไทย เช่น:
ใบสำคัญการสมรส
สูติบัตรของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติ ภาวะ
สำเนาทะเบียนบ้าน
หนังสือรับรองการทำงาน
หนังสืออนุญาตให้ลาพักร้อน (ที่ระบุ ตำแหน่ง จำนวนปี การทำงานและเงินเดือน)
หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (กรณีประกอบ อาชีพอิสระหรือเป็นเจ้าของธุรกิจ)
หนังสือรับรองจากโรงเรียนหรือสถาบันศึกษา
สมุดบัญชีแสดงการ เคลื่อนไหวบัญชีในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
โฉนดที่ดิน
สัญญาเช่าบ้าน
เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว จัดเรียงเอกสาร โดยเตรียมสำเนาเอกสารเพียง 1 ชุด ตาม link ด้านล่างค่า
http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/3926294/Daten/3635446/Sortierhinweis.pdf
เอกสารที่เป็นสำเนา เช่น สมุดเงินฝาก สัญญาต่างๆ ต้องนำตัวจริงไปด้วย และที่สำคัญ หนังสือเดินทาง ให้นำตัวจริงไปทุกเล่ม
2. ขั้นตอนการกรอกใบสมัครออนไลน์
เมื่อเตรียมเอกสารต่างๆ ครบถ้วนแล้ว ต้องกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า ตาม link ด้านล่างค่ะ โดยต้องกรอกเป็น “ภาษาอังกฤษ” แต่ไม่ยากค่ะ
https://videx.diplo.de/videx/;jsessionid=Rlrc-BrU8mLcs1FNECP7r5HH.undefined?0
เมื่อกรอกเสร็จ ตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน Save ลง คอมพิวเตอร์ของเราเอง กด Save ปกติ
ปริ้นท์ออกมาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ในกรณีที่ กรอกผิด ไม่ต้องตกใจ เข้าไปกรอกใหม่ Save ใหม่ ปริ้นท์ใหม่ ได้ค่ะ
เมื่อปริ้นท์ ออกมาแล้ว เอกสารประกอบด้วย 7 หน้า เซ็นชื่อ หน้า 4 ,5 , 6 ส่วน หน้า 7 เป็น Barcode ห้ามทำหาย หรือ อย่าลืมปริ้นท์แนบมาด้วยนะคะ
ติดรูปถ่าย บนหน้าแรก
3 ขั้นตอนการนัดขอสัมภาษณ์
ในการยื่นคำร้องวีซ่า ท่านต้องนัดหมาย โดยโทรศัพท์นัดหมายวันเวลากับศูนย์บริการข้อมูลเทเลอินโฟ มีเดีย ที่หมายเลข 1900 222 343 (ค่าบริการนาทีละ 9 บาท) วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 08.00 – 17.00 น. โทรได้เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น เลือกภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ศูนย์บริการข้อมูลจะขอชื่อ-นามสกุล และหมายเลขหนังสือเดินทางของท่าน ผู้ใช้โทรศัพท์ของ “True Move H” ไม่สามารถติดต่อเบอร์ของศูนย์บริการข้อมูลได้
การนัดสัมภาษณ์ ทางศูนย์บริการจะถามว่า สะดวกวันไหน เวลาเท่าไหร่ ไม่ต้องเครียดว่า ต้องไปแต่เช้านะคะ เพราะว่า นัดสัมภาษณ์เป็นรอบทุกครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่ 07.30 เป็นต้นไป ค่ะ
พนักงานจะให้ข้อมูล 3 อย่าง ซึ่งเราต้องจดและต้องนำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ณ วัน สัมภาษณ์
1 วันที่นัด
2 เวลาที่นัด
3 Code ประจำตัว
4 ขั้นตอนการสัมภาษณ์
ขั้นตอนนี้ เป็นที่โจษจัณฑ์ เรื่องความน่ากลัว แต่ อย่าไปวิตกกังวลมากค่ะ (เดี๋ยวจะเล่าประสบการณ์สัมภาษณ์ทีหลัง)
วันสัมภาษณ์ เตรียมเอกสารดังนี้
1 Pass port
2 Code ประจำตัว พร้อม วันและเวลา
2 เอกสารตามข้อ 1 จัดเรียงตาม “คำแนะนำในการจัดเรียงเอกสาร” (ตาม Link ในข้อ 1)
3 รูปถ่าย อีก 1 ใบ เขียนชื่อ นามสกุล ภาษาอังกฤษ และ เลขที่ Pass port ด้านหลัง
4 เอกสารตัวจริง
ไปก่อนเวลานัดประมาณ 15 นาที ถ้าเป็นตอนเช้ารอบแรก 7.30 ก็อาจจะต้องไปยืนเข้าแถว แต่จริงๆแล้ว ไม่ต้องไปยืนก็ได้ เพราะว่า สถานทูตเปิดเวลา 07.00 น. พนักงานก็จะให้ผู้มาขอวีซ่า เข้าสถานทูตได้เลย ไม่ต้องต่อแถวค่ะ ยังไงถึงมาเช้าก็ต้องสัมภาษณ์ตรงรอบอยู่แล้ว จริงๆ ไปก่อน 15 นาที ตามที่เวป สถานทูตเขียนไว้ก็พอ
ขั้นตอนการสัมภาษณ์
ก่อนเข้าสถานทูต ต้องปิดโทรศัพท์ มือถือ Tablet , IPAD เครื่องมือสื่อสาร ทุกชนิด
เข้าด่าน สแกนร่างกาย
พนักงานจะตรวจกระเป๋าอย่างละเอียด กระเป๋าถือและเอกสารเอาเข้าไปได้ แต่โทรศัพท์ต้องฝากไว้ที่ Locker ซึ่งจะมีชายฉกรรจ์คอยดูแลให้เป็นอย่างดี โดยพนักงานจะให้เบอร์ Locker กับเรา เพื่อที่จะมาแลกโทรศัพท์คืนตอนขากลับ
รับบัตรคิว
จากนั้นเดินตามช่องราวเหล็กไปยังจุด รับบัตรคิว โดยต้องแจ้ง ชื่อและ Code ประจำตัว ตอนที่พนักงานให้มา ณ วันที่ โทรนัด
พนักงานจะให้ บัตรคิว เป็นกระดาษสีขาว ใบเล็กๆ ซึ่งจะเขียน เบอร์ช่องที่จะเข้าสัมภาษณ์ ไว้ตรงด้านบน ห้ามทำหาย นะคะ
นั่งรอเวลาสัมภาษณ์
เมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์ พนักงานจะเรียก ตามรอบ (นาทีระทึกกำลังจะเกิดขึ้น)
มีน้องผู้หญิงคนนึง นางนัดรอบ 09.00 พนักงานเรียกรอบ 08.00 น. นางก็ไปยื่นบัตรคิวให้พนักงาน พนักงานประกาศทางโทรโข่งว่า “รอบ 08.00 น. ครับ น้องครับน้องไม่มีนาฬิกาหรือไง” โอ้ววววววววววว เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยนะ เริ่มและ
เมื่อถึงรอบสัมภาษณ์ ก็เข้าไปตามช่องที่อยู่บนบัตรคิว
ช่องสัมภาษณ์ จะเป็นเหมือนช่องจ่ายยา ตามโรงพยาบาล ช่อง 1-9 จะอยู่ด้านนอก เป็นที่โล่งแจ้ง ส่วนช่อง 11-13 อยู่ด้านในสุด เป็นห้องกระจกกั้นมิดชิด (เหมือนราวกับว่าเป็นห้องสำหรับสัมภาษณ์วีซ่าเชงเก้นโดยเฉพาะ เพราะว่าเพื่อนเราก็ได้สัมภาษณ์ห้องเดียวกันกับเรา)
ถ้าในช่องหรือในห้องนั้นๆ ไม่มีใคร ก็ให้เข้าไปหย่อนบัตรคิวได้เลย แต่ถ้ามีก็รอก่อน อย่าได้ทะเล่อทะล่า เข้าไปเชียว อาจจะโดนสรรเสริญออกไมโครโฟน
เมื่อหย่อนบัตรคิวแล้วก็นั่งรอสัมภาษณ์ ห้องข้างในดีหน่อย ที่ว่า เป็นห้องกระจก ไม่มีเสียงของผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน แต่ห้องข้างนอก โอ้โห จะโหดไปไหนคะพี่ แค่นี้ก็กลัวจะแย่แล้ว
ถึงคิวสัมภาษณ์
ยื่นเอกสารให้พนักงานผู้สัมภาษณ์ (สาวๆ สวยๆ ทั้งนั้น แต่ห้ามพูดนะ พอพูดเท่านั้นแหละ จบเลย) คนที่สัมภาษณ์วันนี้ อายุไม่เกิน 30 หน้าตานางก็น่ารักนะ แต่ว่า......................................
พนักงาน : (เปิดเอกสาร พลิกไป พลิกมา อยู่หลายตลบ) จะไปไหน ไปทำไมตั้ง 46 วัน
A : ไปเที่ยวค่ะ (ตอบผิดมั๊ย)
พนักงาน : แล้วไม่ทำงานหรอ
A : มีบริษัทของตัวเองค่ะ
พนักงาน : บริษัททำอะไร
A : ที่ปรึกษาค่ะ
พนักงาน : บริษัทเพิ่งจดทะเบียนเองนี่
A : ค่ะ แต่ทำอยู่กับเพื่อนมาตั้งนานแล้ว อยู่บริษัทเก่ามา 2 ปี เพิ่งแยกจากเพื่อนมาทำบริษัทตัวเอง
พนักงาน : แล้วบริษัทเก่า เอา หนังสือรับรองมาหรือปล่าว
A : ไม่ได้เอามาค่ะ
พนักงาน : ไม่ได้เอามาถือว่าไม่มี (จบนะ)
A : (ตามที่พี่สบายใจเถอะค่ะ ยิ้ม)
พนักงาน : ไปไหนบ้าง
A : นเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก เยอรมัน ออสเตรีย เชค ค่ะ
พนักงาน : ไปประเทศไหน ประเทศแรก
A : เนเธอร์แลนด์ค่ะ
พนักงาน : อยู่เนเธอร์แลนด์ กี่วัน
A : 5 วัน ค่ะ
พนักงาน : หรอ ทำไม ในนี้ เขียน 6
A : (ชิหายและ ลืมนับวันไป) อ่อ ค่ะ
พนักงาน : นอน อัมสเตอร์ดัมส์ กี่คืน
A : 2 คืน ค่ะ
พนักงาน : ทำไมในนี้ เขียน 3
A : (อ้าวหรอ เริ่มลน ยิ้ม ไม่โต้ตอบ)
พนักงาน : สรุปนอนเนเธอร์แลนด์ กี่ คืน
A : (เริ่ม งง มากแล้ว ) รวม Rotterdam ด้วยก็ 4 คืน ค่ะ
พนักงาน : แล้ว คืนแรก ไม่นับหรอ
A : (งงหนักมาก) อ้าวหรออออออ ลืม
พนักงาน : ทำแพลนเองหรือปล่าวเนี่ย
A : ทำเองค่ะ
พนักงาน : ทำไมตอบไม่ได้เลย
A : (จะให้กรูทำยังไง แพลนตั้ง 46 วัน งง ตั้งแต่ เดี๋ยวถามวัน เดี๋ยวถามคืนและ) ลืมค่ะ
พนักงาน : แล้วไปไหนอีก
A : ก็ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก แล้วก็เยอรมัน ค่ะ แล้วก็ ไปออสเตรีย แล้วก็ เชค แล้วกลับเข้าเยอรมันทางเบอร์ลิน แล้วก็ ไป ฮัมบวก แล้วก็เข้าโคโลจน์
พนักงาน : อยู่เยอรมันกี่คืน
A : คือเป็นคืน จำไม่ได้ค่ะ เพราะว่า บางวันเดินทางกลางคืน แต่ไป 18 วัน
พนักงาน : เยอรมันไปเที่ยวไหนบ้าง
A : ไป museum กับ Octoberfest ค่ะ
พนักงาน : ไป Octoberfest กี่วัน
A : วันเดียวค่ะ วันแรก
พนักงาน : วันที่เท่าไหร่
A : วันที่ 19 กันยายน ค่ะ
พนักงาน : ไปเดือนกันยายน แล้วทำไมชื่อ Octoberfest
A : (ยิ้ม กรูจะรู้มั๊ย ไม่ถามสงกรานต์กรูหล่ะ) อ่อ จริงๆแล้ว งานเริ่มกันยายน แต่งานจบตุลาคมค่ะ
พนักงาน : อ้าวหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย แล้ว Octoberfest เนี่ย เสียค่าเข้ามั๊ย
A : ไม่เสียค่ะ (มั่ว) ลักษณะคล้ายถนนคนเดิน
พนักงาน : แล้วไปกี่คน
A : ไป 3 คน ค่ะ
พนักงาน : อ้าว แล้วเพื่อน ไม่มาสัมภาษณ์ด้วยกันหรอ
A : อ่อ เพื่อนสัมภาษณ์ พรุ่งนี้ ที่ สถานทูตเนเธอร์แลนด์ค่ะ
พนักงาน : เพื่อนชื่อไร
A : B & C ค่ะ
พนักงาน : แล้วทำไมเพื่อนไม่มาสัมภาษณ์ด้วยกัน
A : วันเดินทางไม่เท่ากันค่ะ เพื่อนอยู่เนเธอร์แลดน์เยอะกว่า ต้องไปสัมภาษณ์เนเธอร์แลดน์ค่ะ
พนักงาน : อ้าว แสดงว่า ก็ไม่ได้ไปด้วยกันตลอด คุณต้องเดินทางคนเดียวซี (อุตส่าห์มีคุณ)
A : ค่ะ
พนักงาน : พูดภาษาอังกฤษ ได้มั๊ย
A : ได้ค่ะ
พนักงาน : โอเค Please introduce you self in English.
A : Bla Bla Bla Bla
พนักงาน : Why do you want to go to Germany?
A : Bla Bla Bla Bla
(และอีกเยอะมาก คือตอนนั้น สติแตกไปแล้ว จำไม่ได้ จำได้แค่
Germany มีอะไรที่น่าสนใจสำหรับคุณ คุณทำงานอะไร งานของคุณเกี่ยวกับอะไร ส่วนใหญ่ถามเรื่องงาน)
พนักงาน : แล้วนี่อะไร (ใบเสร็จค่าผ่อนบ้าน)
A : ใบเสร็จผ่อนบ้านค่ะ
พนักงาน : มีบ้านที่ภูเก็ตหรอ
A : ค่ะ
พนักงาน : ทำไมไม่ไปสัมภาษณ์ที่ภูเก็ต
A : ทำงานกรุงเทพฯ ค่ะ
พนักงาน : เอาสมุดบัญชีมามั๊ย
A : เอามาค่ะ (วางให้ แต่ไม่หยิบดู โวะ)
พนักงาน : เคยไปญี่ปุ่น อเมริกา มั๊ย
A : ไม่เคยค่ะ
พนักงาน : เคยโดนปฎิเสธวีซ่า ญี่ปุ่น หรือ อเมริกา มั๊ย
A : ไม่เคยค่ะ (เพราะไม่เคยไปไง)
พนักงาน : รับเอง หรือ ส่งทางไปรษณีย์
A : ไปรษณีย์ค่ะ
พนักงาน : สแกนนิ้วมือ สี่นิ้วขวา สี่นิ้วซ้าย หัวแม่มือสองข้าง
A : ขอบคุณค่ะ
เสร็จแล้วพนักงานจะคืนบัตรคิว แล้วให้ไปจ่ายเงินที่ช่องเบอร์ 2 (กรณีรับเอง จะให้บัตรนัดวันรับ passport มาด้วย)
หมดแรง พูดเลย เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
การจ่ายเงิน
นำบัตรคิวสีขาว ส่งให้เจ้าหน้าที่ (ห้ามหย่อนลงช่อง) จ่ายเงินค่าวีซ่า 2100 บาท ที่ห้อง เบอร์ 2 รอใบเสร็จ
ในกรณีรับทางไปรษณีย์ ต้องไปซื้อซองด้านนอก บริเวณที่นั่งรอสัมภาษณ์ ราคา 130 บาท แล้วเอากลับมายื่นให้เจ้าหน้าที่ ที่นั่งหน้าห้องเบอร์ 9 (พี่เค้าลึกๆ เป็นคนใจดี แต่ว่า เจ้านายบอกว่า ต้องคุม Character พี่เค้าออกตัวว่าอย่างนั้น)
กลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้า
รอ วีซ่า 9 วัน ตั้งแต่วันพุธ ได้วันศุกร์ อาทิตย์ ถัดไป (รู้งี้ไปรับเองดีกว่า) 55555 ได้วีซ่า Multi มา 46 วันเป๊ะ
จบและ หวังว่า คงเป็นประโยชน์กะผู้ที่ต้องการวีซ่าเชงเก้น จากเยอรมันบ้างนะคร๊า |